วงการแพทย์-วงการยา ข้อมูลสุขภาพ วิธีการดูแลตัวเอง โรคร้าย
- วงการแพทย์-วงการยา ข้อมูลสุขภาพ วิธีการดูแลตัวเอง โรคร้าย
- ความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อย - YouTube
- ค่าความดันปกติแต่ละช่วงวัย ควรอยู่ที่เท่าไหร่ - prakan-4u
- ความดันในเด็ก
- ความดันโลหิตต่ำในเด็ก อันตรายหรือไม่? มีสาเหตุมาจากอะไร?
- ความดันในกะโหลกศีรษะสูง - GotoKnow
F: เฝ้าระวังภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูงเนื่องจากศีรษะได้รับการบาดเจ็บ
A: ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเป็น Severe Head injury with Intracerebral Hemorrhage Right frontal parietal with Multiple pneumocephalus with Multiple skull fracture both frontal parietal right
CT scan พบ ICH Right frontal ขนาด 0. 7 cm Right parietal ขนาด 0. 5 cm
-GCS E
2 V t M 4, pupil 3 mm. RTL BE Motor power แขน 2 ข้างเกรด 0 ขาทั้ง 2 ข้างเกรด 2
G: ไม่มีภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง
เกณฑ์การประเมิน
1. ไม่แสดงอาการความดันในกะโหลกศีรษะสูง เช่น ปวดศีรษะ, ตามัว, อาเจียนพุ่ง
มากกว่า 7 คะแนน
3. V/S อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดังนี้ PR= 60-120 ครั้ง/นาที RR=18-20 ครั้ง/นาที BP> 90/60 mmHg. ค่า MAPอยู่ระหว่าง 30-50 mmHg
Pressure > 60 mmHg. กิจกรรมการการพยาบาล
1. การประเมินอาการทางระบบประสาท ทุก 2 ชั่วโมง
2. การดูแลทางเดินหายใจและมีการระบายอาการที่ดี โดยการจัดท่าผู้ป่วยให้นอนศีรษะสูง 30 องศา หลีกเลี่ยงการจัดท่านอนหงายราบ นอนคร่ำ นอนหัวต่ำปลายเท้าสูง นอนงอตะโพกมากกว่า 90 องศา หรืองอข้อเข่า
3. ผู้ป่วยใส่ท่อหลอดลมช่วยหายใจ ดูดเสมหะตามความจำเป็น เช่น เมื่อได้ยินเสียงหายใจดังครืดคราดหรือเสียงวี๊ด ถ้า เพื่อป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจจากเสมหะ และการดูดเสมหะแต่ละครั้งพยาบาลควร hyperventilate ด้วยออกซิเจน 100% ประมาณ 4-5 ครั้ง ก่อนและหลังการดูดเสมหะ และใช้เวลาในการดูดเสมหะแต่ละครั้งไม่นานเกิน 10-15 นาที ดูดเสมหะแต่ละครั้งด้วยความนุ่มนวล
4.
- อา เซ โร ลา
- 5 แพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์ยอดนิยม | ข่าวอีคอมเมิร์ซ
- การจำแนกประเภททำได้อย่างไร
- แผนที่ คลินิกหมอมวลชน สาขา เชียงราย - แม่ฟ้าหลวง : ลองดู
- Netflix ฝึก ภาษา อังกฤษ
- Philips at 610 ราคา c
- วงการแพทย์-วงการยา ข้อมูลสุขภาพ วิธีการดูแลตัวเอง โรคร้าย
- หวย ปริศนา กอง สลาก
- Handycam sony ราคา price
ในกรณีที่ผู้ป่วยใช้ PEEP ( Positive End Expiratory Pressure) ควรดูแลไม่ให้ความดันเกิน 5 – 10 ซม. น้ำ
5. ป้องกันการเกิด Vasalva maneuver ได้แก่ กิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ความดันในช่องอกหรือช่องท้องเพิ่มขึ้น
6. หลีกเลี่ยงการผูกยึดผู้ป่วยกับเตียงโดยไม่จำเป็น
7. ช่วยเหลือผู้ป่วยในการลุกนั่งหรือพลิกตะแคงตัว
8. หลีกเลี่ยงการเกิด isometric exercise เช่น การใช้ไม้ยันต้าน foot board สำหรับป้องกันปลายเท้าตกในขณะที่ผู้ป่วยมีอาการชักเกร็ง การออกแรงกดหรือกระตุ้นบริเวณอุ้งฝ่าเท้า หลีกเลี่ยงการกระตุ้นผู้ป่วยให้เกิดอาการเกร็ง และการให้ยาป้องกันชักเกร็งหรือให้ยาลดการเกิดภาวะหนาวสั่นตามแนวทางการรักษา
9. การลดสิ่งกระตุ้นที่มากเกินไป หรือไม่จำเป็น เช่น การเจาะเลือด การสัมผัสอย่างรุนแรงทันที ความเจ็บปวดจากการประเมินการตอบสนองทางระบบประสาท การทำของตกหล่น หรือล้ม การกระแทกเตียงผู้ป่วยแรงๆ เสียงดังจากการใช้เครื่องมือ เสียงพูดคุยกันของเจ้าหน้าที่ โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบ สงบ ที่สุดเท่าที่จะทำได้
10. สัมผัสตัวผู้ป่วยด้วยความนุ่มนวล แผ่วเบา ไม่สัมผัสอย่างรุนแรงทันทีโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว เพราะจะสะดุ้งตกใจได้ และควรแนะนำญาติของผู้ป่วยให้สัมผัสผู้ป่วยอย่างอ่อนโยนด้วย รวมทั้งควนหลีกเลี่ยงการสัมผัสที่รบกวนผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในรายที่มีอาการเกร็งได้ง่าย
11.
ค่าความดันปกติ ในการวัดค่าความดันโลหิตด้วย "เครื่องวัดความดัน" หลายๆ คนอาจจะเกิดคำถามที่ว่า "ระดับค่าความดันปกติ" ค่าความดันโลหิตมาตรฐาน ควรอยู่ที่เท่าไหร่?