ควรล้างตู้แอร์ ทุกๆ 2 ปี หรือถ้าใครเปิดกระจกขับรถบ่อย ให้ล้างทุกๆ ปี หรือตามเห็นสมควร 8. เมื่อมีเหตุจำเป็นที่ต้องเปิดกระจกขับรถ ควรปิดช่องแอร์บริเวณคอลโซลหรือจุดที่แอร์ ออกให้หมดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ฝุ่นเข้าไปในระบบแอร์น้อยที่สุด คำถาม เราควรล้างแอร์กันตอนไหนล่ะ?? ตามปกติแล้ว เราควรนำรถยนต์เข้าไปล้างแอร์ ก็ 1ปี หรือ 20, 000 กม. ค่ะ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า เราควรนำรถยนต์ไปล้างแอร์?? กลิ่นอับๆ ค่ะ... สังเกตุง่ายๆ.. เอาจมูกจ่อช่องลมแอร์ถ้ามีกลิ่นอับๆก็ได้เวลาล้างแอร์ก่อนกำหนด ละค่ะ... อาจจะก่อน 1 ปีก็ได้ค่ะ ทำไมรถที่ไม่ได้ล้างตู้แอร์เกิน 3 ปี แอร์ถึงไม่เย็น แถมมีกลิ่นเหม็นอีก??

ออนไลน์

แอร์รถยนต์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญภายในรถยนต์ ที่ช่วยให้เรามีห้องโดยสารที่เย็นสบาย เราควรดูแลรักษาแอร์รถยนต์อยู่เสมอเพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้งานได้ยาวนาน วันนี้แอดมินจึงมีวิธีดูแลแอร์รถ ง่ายๆมาฝากกันครับ? เปิดแอร์ให้ถูกวิธี ไม่ควรเปิดแอร์จนสุดเมื่อเริ่มเปิดแอร์ หลังจากที่สตาร์ทรถแล้ว เปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุดก่อนสักพัก เพื่อเป็นการไล่ลมร้อน หรือความชื้น ที่มีอยู่ในรถและช่องแอร์ก่อน แล้วจึงค่อยเปิดสวิตช์ปรับอากาศ (A/C) โดยไม่ควรตั้งอุณหภูมิเย็นจนเกินไป จะทำให้แอร์รถยนต์ทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา? ล้างแอร์ เมื่อใช้รถยนต์มาได้สักระยะ ควรหมั่นล้างแอร์เพื่อทำความสะอาด โดยควรเปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก ๆ 2 หมื่นกิโลเมตร แต่ก็แล้วแต่การใช้งาน หากขับรถในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก หรือผ่านพื้นที่ก่อสร้างถนนบ่อย ๆ แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก 1 หมื่นกิโลเมตร? ดูดฝุ่นในรถประจำ การดูดฝุ่นในรถเป็นประจำ นอกจากจะช่วยลดฝุ่นละอองตามพรมรถ และเบาะรถยนต์แล้ว ยังลดความเสี่ยงที่ฝุ่นจะเข้าไปในอุดตันในระบบแอร์อีกด้วย? ปิดช่องแอร์ หากต้องเปิดกระจกรถ หากมีความจำเป็นต้องเปิดกระจกขับรถ ควรปิดช่องแอร์ตรงช่วงคอนโซลให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันฝุ่นเข้าไปในช่องแอร์?

ไม่ควรนำน้ำหอมชนิดที่เป็นแบบมีแอลกอฮอลเป็นส่วนประกอบ ไปเสียบไว้หน้าช่องแอร์ เพราะจะทำให้ตู้แอร์ผุกร่อนเร็วขึ้น 2. เมื่อนำรถจอดตากแดดเป็นเวลานานๆ ก่อนใช้รถควรเปิดลมเปล่าให้แรงสุด(ปิดสวิตซ์ A/C) เพื่อไล่ความร้อนที่มีอยู่ในระบบแอร์ออกเสียก่อน แล้วจึงค่อยเปิดน้ำยาแอร์ (เปิดสวิตซ์ A/C) 3. ก่อนจอดรถทิ้งไว้นานๆ เช่น จอดข้ามคืน ควรเปิดลมเปล่าให้แรงสุด(ปิดสวิตซ์ A/C) ประมาณ 5 นาที เพื่อไล่ความชื้น ไล่น้ำ ที่ค้างอยู่ในตู้แอร์ออกก่อน เพราะตู้แอร์ทำจาก อลูมิเนียม จะเกิดการผุกร่อนได้ง่าย และจะทำให้ตู้แอร์ลดการเหม็นอับอีกด้วย 4. จงจำไว้เสมอว่า ระบบแอร์ เป็น "ระบบปิด" ดังนั้นเมื่อรถคุณเติมน้ำยาแอร์บ่อยๆ แสดงว่า เกิดการรั่วของระบบแอร์ในรถของคุณแล้ว 5. ไม่ควรเปิดกระจกขับรถบ่อย เพราะจะทำให้ฝุ่นละอองจากภายนอก เข้ามาอุดตันในตู้แอร์ ได้เร็วยิ่งขึ้น 6. เมื่อแอร์ไม่เย็น(กรณีเปิดน้ำยาแอร์แล้ว, เปิดสวิตซ์ A/C แล้ว) แต่ยังไม่เย็น ให้รีบปิด น้ำยาแอร์หรือ สวิตซ์ A/C ทันที เพราะอย่างน้อยๆ ถ้าเกิดการรั่วในระบบ น้ำยาแอร์และ น้ำมันคอมเพรสเซอร์จะมีน้อยมากในระบบ จะทำให้คอมเพรสเซอร์พังมากขึ้นกว่าเดิม แล้วควรนำรถไปเช็คให้เร็วที่สุด แต่กรณีนี้ใช้ลมเปล่าก่อนก็ได้ 7.

ชั้น 1

วิธี ดูแล แอร์ รถยนต์ ภาษาอังกฤษ วิธี ดูแล แอร์ รถยนต์ ราคา

วิธีดูแลรักษาแอร์รถยนต์ ให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น : โตโยต้ากาญจนบุรี

ปิดสวิตช์ A/C ก่อนถึงที่หมาย ก่อนขับรถถึงที่หมายสักพัก แนะนำให้ปิดสวิตช์ปรับอากาศ หรือ สวิตช์ A/C พร้อมกับเปิดพัดลมไปที่ระดับแรงสุด เพื่อเป็นการไล่ความเย็น และความชื้นออกจากระบบแอร์ ซึ่งความชื้นที่ค้างอยู่ในช่องแอร์อาจเป็นสาเหตุของกลิ่นอับชื้นและบ่อเกิดของเชื้อโรคได้ เพื่อนๆ ได้ทราบ วิธีดูแลแอร์รถยนต์ กันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้กันด้วย และควรขับขี่กันอย่างปลอดภัย ไม่ประมาทกันด้วยนะครับ บทความดีๆจาก วันลิ้งค์ gpsต้องวันลิ้งค์ Onelink Onelink Technology GPS Tracking ล้างแอร์ วันลิ้งค์ แอร์รถยนต์

5 วิธีง่ายๆ ดูแลแอร์รถด้วยตนเอง | Smile Insure

คอลัมน์ คาร์ทิปส์ ที่มา นสพ. มติชน ย่างเข้าสู่หน้าร้อน เครื่องปรับอากาศหรือ แอร์ รถยนต์ถึงคราวต้องทำงานหนักอีกแล้ว วิธีที่จะช่วยให้แอร์รถยนต์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและใช้ งานได้นาน "มติชน" มีข้อแนะนำดังนี้ 1. ก่อนจะสตาร์ตเครื่องยนต์ทุกครั้ง ควรตรวจดูสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ว่าอยู่ในลักษณะใด เปิดหรือปิด ถ้าหากเปิดอยู่ให้กดปิดเสียก่อนที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของเครื่องยนต์ในขณะสตาร์ต 2. หลังจากเครื่องยนต์ติดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดสวิตช์พัดลมของเครื่องปรับอากาศก่อน โดยปรับไปที่ตำแหน่งความเร็วสูงสุด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที เพื่อไล่ลมร้อนจากช่องปรับอากาศ หลังจากนั้น จึงเปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ปรับสวิตช์ที่ใช้ปรับระดับความเย็นไปที่ตำแหน่งเย็นสุด แล้วจึงปรับสวิตช์ควบคุมความเร็วของพัดลมและสวิตช์ควบคุมระดับความเย็นลงสู่ ตำแหน่งที่สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารตามต้องการ 3.

เรื่องที่คนมีรถไม่รู้ไม่ได้ กับวิธีการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นฉบับง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง มีจุดไหนที่ต้องดูแลและหมั่นตรวจเช็กเพื่อการยืดอายุการใช้งานของรถของคุณ เรื่องพื้นฐานของการมีรถ นั่นคือการ ดูแลรักษารถยนต์ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ มีจุดสำคัญไหนบ้างที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ Chobrod รวบรวมมาให้ กับวิธีการบํารุงรักษารถยนต์เบื้องต้นเพื่อถนอมอายุการใช้งานรถของคุณ มาดูกันว่าคุณได้ปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้หรือเปล่า? พร้อมคำแนะนำและข้อควรระวัง #1.

1 ต้องเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ให้มีแรงอัดน้ำยามากขึ้น 4. 2 ก่อนเติมน้ำยาแอร์ประเภทใหม่ลงไปในระบบ ต้องล้างน้ำยาเก่าของระบบเดิมออกให้หมดก่อน 4. 3 เปลี่ยนท่อยางและ Oring 4. 4 เปลี่ยน Receiver Dryer 4. 5 เปลี่ยน extension valve 4. 6 ส่วนแผงคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนอาจยังไม่ต้องเปลี่ยน หากเช็คแล้วยังอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแผลลึกๆ 4. 7 เมื่อเปลี่ยนระบบเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมติดสติ๊กเกอร์เพื่อเป็นการเตือนว่า ใช้ระบบแอร์ 134 ด้วย เพื่อป้องกันการพลั้งเผลอเติมผิดประเภท การเช็คว่า ปัจจุบันรถของคุณใช้น้ำยาแอร์ในระบบ R-12 หรือ R-134a ทำได้โดยการตรวจเช็คจากห้องเครื่องที่กระโปรงรถ โดยสังเกตที่หัวเติมน้ำยาแอร์ เพราะทั้งสองระบบมีความต่างกัน ระบบ R-12 หัวเติมเป็นแบบเกลียว ส่วนระบบ R-134a หัวเติมเป็นแบบตัวล๊อค หรือเช็คจากรุ่นการผลิตของรถก็ได้ เพราะรถรุ่นเก่าที่ผลิตก่อนปี พ. ศ.

  • วิธียืดอายุ แอร์รถยนต์ ให้อยู่กับรถคุณไปนานๆ
  • วิธีดูแลรักษาระบบแอร์รถยนต์ | Car of Know - YouTube
  • งาน 3d printer machine
  • น้องปอย พี่เต๋า ศรราม : น้องปอยซ้อมเป็นดำดง&พี่แฉะขอคืนแสงโสม - อรัญญาสะอื้น - YouTube
  • เลือกแบบบล็อก
  • ราคา ทองแดง โลก
  • 5 ข้อง่ายๆ ตรวจเช็คแอร์รถยนต์ด้วยตนเอง | Thai Car Lover
  • 5 วิธีดูแลแอร์รถยนต์ แบบง่ายๆ ? - ONELINK
  1. ค่อม ชวน ชื่น เสีย ชีวิต
  2. Taylor swift me แปล ไทย เป็น
  3. Cocotte farm roast & winery ราคา
  4. อริยสัจ 4 ตัวอย่าง
ธรกจ-ราย-ได-เสรม